Size for 1 person. เปลญวนนอนคนเดียว

ขนาดที่นอน 80 cm. x 200 cm. ความยาวโดยรวมประมาณ 310 cm. มีทั้งแบบใช้ไม้ยูคา ที่ออกแนวใกล้ชิดธรรมชาติ และแบบหรูหราด้วยไม้สักกับหัวบัว สามารถรับน้ำหนักได้กว่า 90 กิโลกรัม

Size for 2 person. เปลญวนนอน 2 คน

ขนาดที่นอน 120 cm. x 200 cm. ความยาวโดยรวมประมาณ 330 cm. เปลญวนนอนขนาดใหญ่ แบบหรูหราด้วยไม้สักกับหัวบัว

Hammock Chair With Stand. เปลญวนนั่งพร้อมขาตั้ง

เป็นเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านก็ได้ เก๋ๆ เท่ห์ๆ เหมาะกับพื้นที่น้อยๆ เหยียดขานั่งอ่านหนังสือ หรือนั่งเล่นสบายชิล ชิล

Hammock Chair เปลญวนนั่ง

แบบนี้แขวนข้างบนจุดเดียว ไม่เปลืองพื้นที่ แต่ยังได้อารมณ์เปลญวน ไว้นั่งอ่านหนังสือ จิบกาแฟ แสนจะสบาย

Hammock Stand ขาตั้งเปลญวน

ไม่ต้องเหนื่อยหาที่แขวน ขาตั้งทำจากไม้ตะเคียนทองอบแล้ว ไม้ตะเคียนทองเป็นไม้เนื้อแข็ง ปลวกไม่ขึ้น แข็งแรง ทนทาน

ระยะในการผูกเปลญวน


พื้นที่ในการแขวนเปลญวนแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน บางที่ก็ยาว บางที่ก็สั้น

ถ้ายาวมากกว่าตัวเปลไม่ค่อยมีปัญหาค่ะ เราใช้เชือกต่อได้ แต่ถ้าสั้นมากไป เปลจะหย่อนเป็นตัว U จะนอนไม่สบายได้ และถ้าพื้นที่ในการแขวนเปลสั้นกว่าตัวเปลก็ไม่ควรเกิน 50 cm. ค่ะ

ตัวอย่างพื้นที่สั้นกว่าตัวเปลแบบนี้ยังพอนอนได้สบาย สบาย
เปลญวน hammockthai ที่รีสอร์ท มัลดีฟ
เปลญวน hammockthai แบบ G บ้านคุณรุ่งโรจน์ สุราษฎ์
เปลญวน hammockthai แบบ C บ้านคุณจอย รังสิต
เปลญวน hammockthai แบบ G บ้านคุณหนิง เชียงใหม่
เปลญวน hammockthai แบบ C บ้านคุณธงชัย

หรือจะแขวนให้ด้านหนึ่งสูงกว่าอีกด้านหนึ่งแบบนี้ก็ได้ค่ะ
เปลญวน hammockthai แบบ G เกลอโฮสเทล กระบี่
เปลญวน hammockthai แบบ F ที่ Anantara Kihavah Villas มัลดีฟ

 และถ้าพื้นที่ยาวมากๆ เลยล่ะ
การผูกเปลที่มีพื้นที่ยาวมากๆ ควรที่จะต้องผูกให้สูงไว้ค่ะ เพราะเมื่อมีคนนอนตัวเปลจะตกท้องช้าง(หย่อน)ลงไปอีก
เปลญวน hammockthai แบบ F ที่ Anantara Veli Resort & Spa มัลดีฟ
ผืนเดียวกับภาพข้างบน แต่คนละมุมค่ะ
ระยะในการผูกเปล ตัวเปลก็ 3.30 เมตร บวก 2 ข้าง ข้างละประมาณ 1.50 เมตร รวมแล้วก็น่าจะประมาณ 6 เมตรนิดนิด
เปลญวน hammockthai แบบ F
จุดนี้ประมาณ 5 เมตรค่ะ
*** ถ้าระยะในการผูกยาวมากๆ รัศมีในการแกว่งก็จะสูงตามไปด้วยนะคะ
ระยะในการผูกเปลญวนนี้ ไม่ใช่แค่เปลญวน hammockthai เท่านั้น เปลญวนอื่นๆ ก็ใช้หลักการประมาณนี้ได้ค่ะ

สาวเกาหลีรีวิวโรงแรม Sofitel Krabi Phokeethra มีเปลญวน hammockthai ด้วย

Sofitel Krabi Phokeethra Golf & Spa Resort สั่งเปลญวน hammockthai ไปเมื่อ ธันวาคม ปี 2013
สาวเกาหลีคนนี้รีวิวเมื่อ มิถุนายน 2014
ไปเจอโดยบังเอิญ... เลยเอามาให้ดูกัน

มกราคม ปี 2015 สั่ง 10 ผืน มิถุนายน ปี 2015 สั่งเพิ่มอีก 5 ผืน
ขอบคุณนะคะ










Vertical and horizontal lay in hammockthai. เปลญวน hammockthai นอนได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน


เปลผืนนี้เป็นผืนต้นแบบใช้มาเกือบ 10 ปีแล้วค่ะ เป็นแบบนอนคนเดียว กว้าง 80 cm. ภาพนี้แสดงให้เห็นว่าถึงแม้จะกว้างแค่ 80 cm แต่เปญวน hammockthai สามารถยืดออกไปได้อีกเกือบเท่าตัวเลยค่ะ

ทำ Candle Lampshade สร้างบรรยากาศโรแมนติกแบบง่ายๆ


ง่ายๆ เลยค่ะ
อุปกรณ์ไม่มีอะไรมาก 
เทียน, แก้ว จะเป็นแก้วแชมเปญ หรือแก้วไวน์ หรือถ้าไม่มีจริงๆ แก้วธรรมดาก็ได้ค่ะ, สก็อตเทป หรือเทปกาวสองหน้า
ปริ้นแล้วตัดกระดาษตามแบบ แล้วเอาติดกันเป็นกรวย แล้วก็เอาไปครอบแก้วไวน์ 
แค่นี้เอง...


โหลดไปปริ้นได้เลยค่า





สำหรับคนรักแมว DIY ที่ลับเล็บของน้องเหมียว


กิจวัตรประจำวันของน้องเหมียวนอกจาก กิน นอน เล่น แล้วที่สำคัญคือการลับเล็บด้วย โซฟาตัวสวย เบาะรถมอเตอร์ไซค์ เป็นของโปรดเลยค่ะ เค้าจะลับเล็บกันอย่างเมามันมาก แถมเคยมาลับเล็บกับก้นป้าเอ๋ (ใส่กางเกงยีนส์) ด้วยอ่ะ เลยได้ไอเดียทำที่ลับเล็บของน้องเหมียวค่ะ

อุปกรณ์หาง่ายๆ
กระดาษลัง, ขวดน้ำอัดลม, ปูนปลาสเตอร์, ก้อนหิน, เชือก (อะไรก็ได้ค่ะ ใครอยากได้สีสันหน่อย จะใช้ไหมพรมก็ได้) กาวลาเท็กซ์, สก็อตเทป, คัตเตอร์ และกรรไกร

ขั้นตอน
1.เอากระดาษลังตัดตามรูปทรงที่ต้องการ ทากาวติดกันซ้อนสัก 3 ชั้น เจาะรูตรงกลางเพื่อจะเอาขวดน้ำอัดลมมาสวม

2.ตัดก้นขวดน้ำอัดลม แล้วเอาลองมาสวมต่อกัน ออกแบบตามใจชอบเลยค่ะ อยากได้ความสูงแค่ไหน ก็ตัดสวมไปตามความต้องการได้เลย ตรงส่วนที่จะสวมต่อกันให้ตัดตามแนวตั้ง (อย่างรูปในวงกลม) เพื่อเวลานำเอาขวดแต่ละขวดมาซ้อนกันจะได้แน่นขึ้นค่ะ (หรือจะใช้ขวดน้ำมัน แก้วกาแฟพลาสติกแทนขวดน้ำอัดลมก็ได้)

3.ตอนนี้จะทำส่วนด้านล่างของที่ลับเล็บ ตรงนี้อยากจะทำให้มีน้ำหนักถ่วงเวลาที่น้องเหมียวปีนหรือดันจะได้ไม่ล้มง่ายๆ
ขั้นตอนก็คือเอาขวดน้ำอัดลมที่ตัดก้นแล้วมา 2 ขวด ขวดใบแรก (ใบนี้เป็นชั้นที่ 2) ปิดฝาขวดให้แน่น พลิกให้ฝาขวดอยู่ด้านล่าง ใส่ก้อนหินแล้วผสมปูนปลาสเตอร์เทลงไป
จากนั้นก็สวมขวดใบที่ 2 (ขวดใบนี้จะเป็นขวดที่จะสวมกับกระดาษลังที่เจาะรูไว้) เอาฝาขวดออกใส่ก้อนหินแล้วเทปูนปลาสเตอร์จนเกือบเต็ม ปูนปลาสเตอร์จะไหลลงไปที่ขวดใบแรกด้วยนะคะ ถ้ากลัวว่าปูนปลาสเตอร์ไหลออกก็ติดสก็อตเทปซะหน่อย แต่ป้าเอ๋แค่กดให้แน่นๆ แล้วรอให้ปูนปลาสเตอร์เซ็ตตัวค่ะ ใช้เวลาไม่นาน

4.เอาขวดที่เทปูนแล้วมาสวมกับกระดาษลัง แล้วเอาขวดที่ตัดก้นแล้วที่เหลือมาสวมต่อกันให้ได้ความสูงตามที่ต้องการ ติดสก็อตเทปตรงรอยต่อของขวดแต่ละใบ

5.นำเอาเชือกหรือไหมพรมมาพันรอบฐานกระดาษลัง และขวดให้หมด

6.สุดท้ายเพื่อความแข็งแรงทนทานกับเล็บของน้องเหมียว ให้ทากาวลาเท็กซ์ให้ทั่วทั้งหมด รอให้แห้งให้สนิทากนั้นก็....ถึงคราวหรรษาของน้องๆ แล้วค่า



ลองหาของที่ไม่ใช้แล้ว อย่างขวดน้ำอัดลม ขวดน้ำมัน หรือแก้วกาแฟ มาใช้ให้เป็นประโยชน์ก่อนจะทิ้งกันค่ะ และหวังว่า DIY ครั้งนี้คงจะเป็นประโยชน์กันบ้างนะค้า

ขอบคุณค่า
ป้าเอ๋

ปล. ป้าเอ๋ไปอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับการลับเล็บของน้องเหมียวมาเค้าว่า

การลับเล็บของแมวเป็นเรื่องธรรมชาติที่เค้าทำเป็นกิจวัตร เป็นเรื่องธรรมชาติ เพื่อการล่าเหยื่อมาเป็นอาหาร เพื่อการปีนป่ายและปกป้องตนเอง  ทำให้เล็บแข็งแรง แล้วก็ช่วยลอกแผ่นเล็บที่ตายแล้วออก และเป็นการบอกเขตแดน

การลับเล็บจะทำให้แมวรู้สึกดี ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

เคล็ดไม่ลับในการที่จะให้น้องเหมียวเปลี่ยนใจจากเฟอร์นิเจอร์ตัวโปรดคือ เอาที่ลับเล็บอันใหม่ไปวางไว้ใกล้ๆ ที่ที่เค้าเคยลับเล็บ พอเค้าเริ่มจะทำการคุณก็บอกกับเค้า (เสียงดังนิดนึง) ไม่นะ อย่านะ อะไรทำนองนี้ แล้วพาเค้าไปที่ลับเล็บอันใหม่ แบบนุ่มนวลแล้วจับมือแมวมาถู เพื่อให้กลิ่นจากมือแมวไปติดที่ที่ลับเล็บ และเป็นการกระตุ้น ให้แมวไปใช้ที่ลับเล็บได้เองทีหลัง ค่อยๆ เปลี่ยนพฤติกรรมกันไป อย่าทำโทษด้วยการตี  ให้ใช้เสียงเมื่อทำผิด และชมเมื่อเค้าทำดีค่ะ

ระหว่างทางเดินไปที่นอน กับทางเดินไปที่วางอาหาร เป็นจุดเหมาะในการวางที่ลับเล็บ

และถ้าน้องเหมียวยังเลือกที่จะลับเล็บกับเฟอร์นิเจอร์ของคุณ แทนที่ไปที่ลับเล็บของเค้านั่นก็หมายความว่าเฟอร์นิเจอร์มันอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมในการลับเล็บ แต่ตำแหน่งของที่ลับเล็บน่ะมันม่ายช่ายยยย

DIY ‘กรอบรูปตกไม่แตก’ ที่เป็นได้ทั้งของขวัญวาเลนไทน์และของแต่งบ้านจากวัสดุที่คาดไม่ถึง


วันนี้เป็นกรอบรูปตกไม่แตกค่ะ
ของขวัญวันวาเลนไทน์ ที่นอกจากจะเป็นของขวัญบอกรักแล้วยังเป็นของแต่งบ้านได้ด้วยนะคะ ต่อให้คุณแฟนของคุณจะซุ่มซ่ามแค่ไหนคุณก็ไม่ต้องกังวลว่ากรอบรูปที่คุณให้คุณแฟนจะตกแตกเป็นลางร้ายอีกต่อไปแล้ว...555

วัสดุ/อุปกรณ์
วัสดุหลักคือ ‘กระดาษลัง’ ค่ะ นอกนั้นก็คัตเตอร์, กาว, สติกเกอร์ใสหรือสก็อตเทป, ไม้บรรทัด
และของตกแต่งตัวกรอบรูป เช่นเชือก กระดุม หมุดติดรูป

ขั้นตอนอันแสนจะง่ายดาย


1. ตัดรูปมาติดบนกระดาษลัง รอแห้ง
2. ทีนี้ก็เคลือบ ใช้สติกเกอร์ใส หรือถ้าไม่มี ก็ใช้สก็อตเทปก็ได้ค่ะ ถ้าความกว้างของสก็อตเทปสั้นไป ก็ค่อยๆ ติดไล่ไปเรื่อยๆ จนติดหมดทั้งรูป แล้วตัดตามรูปที่เอามาแปะไว้
ถ้าอยากให้มีความหนามากขึ้น ก็เสริมด้วยกระดาษลังเพิ่มได้ค่ะ จะเป็น 2 ชั้น 3 ชั้น ตามใจชอบเลยค่ะ
3. ตัดกระดาษทำกรอบ ให้ตัดขวางลอนลูกฟูกนะค่ะ (ดูจากรูปที่ 4) ป้าเอ๋ขี้เกียจวัดเลยใช้ความกว้างของไม้บรรทัดซะเลยตัดมาหลายๆ เส้นเลยค่ะ
4. ติดกระดาษที่ใช้ทำกรอบ ถ้าอยากให้หนามากก็เสริมได้ตามใจชอบเลยค่ะ


ข้อควรระวัง 
ถ้ารูปภาพเล็กและมีความโค้ง ต้องเลือกกระดาษลังที่มีลอนลูกฟูกถี่ๆ หน่อยค่ะ
และก่อนที่จะติดทำกรอบ แนะนำให้ใช้คัตเตอร์กรีดกระดาษด้านใน (ด้านที่จะติดรูปอ่ะค่ะ) จะทำให้งานเนี้ยบขึ้น
ตอนที่ป้าเอ๋ทำ ป้าเอ๋ใช้กระดาษลังลอนห่าง แล้วก็ไม่ได้กรีดด้านในอย่างที่บอก เลยออกมาอย่างที่เห็นล่ะค่า...

สุดท้ายก็ตกแต่งตามใจชอบได้เลยค่ะ
ขอบด้านนอกป้าเอ๋ใช้เชือกพันๆ ไปรอบ อีกอันเอากระดาษนิตยสารมาติด แล้วก็หาอะไรกระจุกระจิกรอบๆ ตัว เช่นกระดุม หมุดติดกางเกงยีนส์ มาใช้



อันสุดท้าย ป้าเอ๋เอาตะเกียบมาเสียบตามร่องของกระดาษลัง แล้วก็ปักเสียบกับกระดาษลัง(อีกล่ะ)

กรอบรูปแบบนี้มีน้ำหนักเบามากๆ ค่ะ เอาเทปกาว 2 หน้า แล้วติดกับผนังห้องได้เลยค่ะ เหมาะกับบ้านหรือห้องที่ไม่อยากเจาะหรือตอกตะปูค่ะ

ป้าเอ๋ทำมาเป็นไกด์ไอเดียให้ดูกัน หวังว่าจะมีประโยชน์ค่ะ ลงมือทำกันแล้วส่งรูปมาให้ป้าเอ๋ดูกันบ้างนะคะ

ขอบคุณค่า

Plant Hanger Part 2 ที่แขวนต้นไม้ ตอนที่ 2

Plant Hanger Part 2 ที่แขวนต้นไม้ ตอนที่ 2

ตอนที่ 2 นี่คล้ายๆ กับที่แขวนต้นไม้ตอนที่ 1

ต่างกันที่ แบบของตอนที่ 1 (อันซ้ายมือ) จะมีเส้นที่จะแขวน เอามารวมกันเป็น 2 ข้าง แต่ของตอนที่ 2 เนี่ย ตอนจบตรงส่วนที่ใส่กระถางจะไม่ได้รวบเป็น 2 ข้างค่ะ

อุปกรณ์  (เหมือนตอนที่ 1 เลยค่ะ แต่ถ้าไม่ได้อ่านตอนที่ 1 ก็ไม่เป็นไร จะข้ามมาทำตอนที่ 2 เลยก็ได้)
1. เชือก (ป้าเอ๋ใช้เชือกกระสอบค่ะ ซื้อที่ร้านที่เค้าขายกระสอบ ราคากิโลละ 80 บาท ได้ความยาวประมาณ 280 เมตรกว่าๆ เป็นแบบ 5 เกลียว เค้ามี 3 เกลียว 5 เกลียว ขนาด 5 เกลียวจะใหญ่กว่า) หรือจะใช้เชือกไนล่อนเส้นเล็กๆ (ที่น่าจะมีขายตามร้านขายวัสดุก่อสร้าง) แต่ข้อเสียของเชือกแบบนี้จะค่อนข้างลื่น แข็งเวลามัดมันจะเจ็บมืออ่ะค่ะ ข้อดีคือมีหลายสีให้เลือกก็จะได้อีกฟิวนึง (ไว้เดี๋ยวป้าเอ๋จะลองทำมาใด้ดูว่าหน้าตาจะออกมาเป็นไง)
2. หลอดดูดน้ำ
3. กาวร้อน หรือกาวตราช้าง (กาวร้อนหาซื้อได้ที่ร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง หรือร้านอุปกรณ์เครื่องเขียน) ที่เลือกกาวร้อนก็เพราะมันแห้งเร็วไม่ต้องรอนาน
4. กรรไกร
5. ไม้บรรทัด

ขั้นตอน

1. ตัดเชือกยาว 1 ม. 12 เส้น จับปลายเชือกให้เสมอกันแล้วมัด (ทำให้ทำงานง่ายขึ้น)
2. ตัดเชือกอีกเส้น ประมาณ 30 cm.  ทำเป็นตัว U ตะแคง แล้วเริ่มพันรอบๆ ไปหาท้ายตัว U
3. พันซัก 3-4 รอบ
4. สอดปลายเชือกเข้าไปที่ตัว U แล้วดึงเชือก(ที่พัน) ทั้ง 2 ด้าน


5. หยดกาวร้อนที่ปลายเชือก (12 เส้น) อีกด้านนิดนึง แค่พอให้ปลายเชือกแข็ง
6. ตัดหลอดดูดน้ำ ขนาด 4 cm. จำนวน 24 อัน (ขนาดขึ้นอยู่กับว่าอยากได้ใหญ่เท่าไหร่ ถ้าอยากได้ใหญ่หน่อยก็เพิ่มความยาวของหลอกที่ตัด) 
สอดเชือก 2 เส้นเข้าไปในหลอด เทคนิคคือ สอดทีละเส้นให้เชือกเส้นแรกโผล่ปลายออกมานิดนึงแล้วสอดเชือกเส้นที่ 2 เข้าไปดึงเชือกเส้นแรก เชือกเส้นที่ 2 จะตามออกมาค่ะ
7. เลือกเชือกเส้นที่อยู่ถัดไปนะคะ สอดเชือกให้ครบ 12 เส้นก็จะได้ 6 คู่ 
มัดให้ปมเชือกให้ติดกับหลอด ทีนี้จะง่ายแล้วค่ะ เพราะเรามีหลอดเป็นไกด์ไลน์แล้ว เราจะได้ปมของเชือกที่มีความยาวเท่าๆ กันแล้ว เราก็จะได้ชั้นที่ 1 ตรงนี้จะอยู่ที่ก้นกระถางค่ะ
8. เลือกเชือกจาก 2 กลุ่ม ที่อยู่ติดกันกลุ่มละ 1 เส้น แล้วสอดเชือก 2 เส้นเข้าไปในหลอด ตรงนี้ต้องใช้เชือกกลุ่มที่อยู่ติดกันนะคะไม่งั้นมันจะไขว้กันมั่วไปหมดค่ะ


9. ทำจนครบรอบ ย้ำ! ใช้เชือกกลุ่มที่อยู่ติดกันค่า 
10. ป้าเอ๋ทำ 4 ชั้นค่ะ
ทีนี้ก็ทำขั้นตอนที่ 1 ถึง 4 ที่ปลายเชือกอีกด้าน อย่าลืมตัดปลายเชือกให้เสมอกันเพื่อความสวยงามด้วยนะคะ



ป้าเอ๋ลองทำมาให้ดูกันด้วยว่าถ้าใช้หลอดขนาดต่างกันจะเป็นยังไง
(ตะกล้าขนมจีน ปากกว้างเกือบ 8 นิ้ว) สีส้มใช้หลอดขนาด 4 cm ทำ 4 ชั้น, สีเขียวใช้หลอดขนาด 4 cm ทำ 6 ชั้น และสีน้ำเงินใช้หลอดขนาด 5 cm ทำ 5 ชั้น

2 อันนี้ป้าเอ๋ใช้หลอดขนาดเดียวกัน คือ 4 cm. นายแบบคือกระถางพลาสติกขนาด 6 นิ้ว (ขออภัยค่ะ ไม่ได้ทำความสะอาดนายแบบเลย) แต่จริงๆ แล้ว หลอดขนาด 4 cm. ใส่กระถางขนาด 7 นิ้วก็ยังได้ (ลองมาแล้วค่ะ) แต่ต้องเพิ่มความยาวเชือกซักหน่อย เพื่อเพิ่มความยาวของช่วงที่จะแขวนด้วย ไม่งั้นมันจะดูออกสั้นๆ ป้อมๆ ไม่ค่อยสมดุลเท่าไหร่ 
เป็นไงค่ะ ลองทำดูค่ะ ไม่ยากเลยของที่อยู่ใกล้ตัวเราสามารถเอามาสร้างสรรค์ทำอะไรได้หลายๆ อย่าง แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ‘ลงมือทำ’ ค่ะ

ป้าเอ๋มีไอเดีย DIY อื่นๆ อยู่ในหัวอีกมากมายเลยค่ะ ตั้งใจเอามาแบ่งปันกัน ติดตามด้วยนะค้า

ขอบคุณค่ะ

Plant Hanger Part 1 ที่แขวนต้นไม้ ตอนที่ 1


คือมันมีหลากหลายแบบมากนะคะ ป้าเอ๋เลยเลือกเอาที่แขวนต้นไม้ด้วยเชือกเอาอย่างง่ายที่สุดมาเลยค่ะ
ของเดิมเนี่ยเค้าจะมัด ซึ่งจะต้องมัดให้เท่าๆ กัน แล้วถ้าเรามัดไม่เท่ากันมันก็จะออกมาเบี้ยวไม่สวย แล้วก็จะต้องแก้มัดแล้วมัดอีกจนเชือกพังก็ไม่เท่ากันซักที ป้าเอ๋มีเทคนิคค่ะ มาดูกัน

อุปกรณ์
1. เชือก (ป้าเอ๋ใช้เชือกกระสอบค่ะ ซื้อที่ร้านที่เค้าขายกระสอบ ราคากิโลละ 80 บาท ได้ความยาวประมาณ 280 เมตรกว่าๆ เป็นแบบ 5 เกลียว เค้ามี 3 เกลียว 5 เกลียว ขนาด 5 เกลียวจะใหญ่กว่า) หรือจะใช้เชือกไนล่อนเส้นเล็กๆ (ที่น่าจะมีขายตามร้านขายวัสดุก่อสร้าง) แต่ข้อเสียของเชือกแบบนี้จะค่อนข้างลื่น แข็งเวลามัดมันจะเจ็บมืออ่ะค่ะ ข้อดีคือมีหลายสีให้เลือกก็จะได้อีกฟิวนึง (ไว้เดี๋ยวป้าเอ๋จะลองทำมาใด้ดูว่าหน้าตาจะออกมาเป็นไง)
2. หลอดดูดน้ำ
3. กาวร้อน หรือกาวตราช้าง (กาวร้อนหาซื้อได้ที่ร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างร้านใหญ่ๆ หน่อยก็พวกโฮมโปร โฮมมาร์ท หรือร้านอุปกรณ์เครื่องเขียน) ที่เลือกกาวร้อนก็เพราะมันแห้งเร็วไม่ต้องรอนาน
4. กรรไกร
5. ไม้บรรทัด
และ 6. ลูกปัด ลูกปัดอะไรก็ได้ แต่ที่สำคัญจะต้องให้รูใหญ่พอที่เชือกที่มัดแล้วสอดเข้าไปได้ ซึ่งมันหายากพอสมควร ป้าเอ๋เลยทำเอง เป็นลูกปัดกระดาษค่ะ อันนี้ไม่ซีเรียสไม่มีก็ได้ค่ะ

ขั้นตอน


1. ตัดเชือกยาว 1 เมตร 12 เส้น จับให้เสมอกันแล้วมัด
2. ปลายอีกข้าง หยดกาวร้อนที่ปลายเชือกนิดนึง ย้ำนิดเดียวนะคะ
3. ตัดหลอดดูดน้ำ ขนาด 3 cm. จำนวน 34 อัน (ขนาดขึ้นอยู่กับว่าอยากได้ใหญ่เท่าไหร่ ถ้าอยากได้ใหญ่หน่อยก็เพิ่มความยาวของหลอกที่ตัด
4. สอดเชือก 2 เส้นเข้าไปในหลอด เทคนิคคือ สอดทีละเส้นให้เชือกเส้นแรกโผล่ปลายออกมานิดนึงแล้วสอดเชือกเส้นที่ 2 เข้าไปดึงเชือกเส้นแรก เชือกเส้นที่ 2 จะตามออกมาค่ะ


5. เลือกเชือกเส้นที่อยู่ถัดไปนะคะ สอดเชือกให้ครบ 12 เส้นก็จะได้ 6 คู่
6. มัดให้ปมเชือกให้ติดกับหลอด ทีนี้จะง่ายแล้วค่ะ เพราะเรามีหลอดเป็นไกด์ไลน์แล้ว เราจะได้ปมของเชือกที่มีความยาวเท่าๆ กันแล้ว
7. สอดเชือก 1 เส้น ต่อหลอด 1 อัน
8. มัด ที่สำคัญตอนมัดต้องเลือกเชือกกลุ่มที่อยู่ถัดไปด้วยนะค่ะ (ไม่งั้นมันจะไขว้กันมั่วไปหมดค่ะ)


9. มัดจับคู่ไปจนครบรอบ
10. ถ้ามีลูกปัดก็ใส่ได้ตอนนี้เลยค่ะ แต่ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่
ทำขั้นตอนที่ 7 8 9 อีกรอบ พูดง่ายก็คือทำอีกชั้นนั่นแหละค่ะ
11. แบ่งเชือกออกเป็น 2 กลุ่ม สอดหลอดเข้ากับเชือกเส้นที่ 2 และ 3 มัดเชือก1, 2 และ 3 เข้าด้วยกัน
สอดหลอดเข้ากับเชือกเส้นที่ 4 และ 5  มัดเชือก 4, 5 และ 6 เข้าด้วยกัน
12. จากนั้นสอดเชือกใส่หลอด กลุ่มละเส้น แล้วมัด เชือก 1, 2, 3, 4, 5 และ 6เข้าด้วยกัน
ทำแบบนี้อีกด้าน


13. จะได้แบบนี้ค่ะ
14. ทีนี้มาทำด้านบน ตรงที่จะแขวนค่ะ
ตัดปลายเชือกที่หยดกาวร้อนไว้
เชือก 2 กลุ่มที่ทำมาแล้ว เอาด้านบนมาไขว้ตามรูป กะให้เท่าๆกัน
15. เอาเชือกหรือด้ายพันๆ ไว้ให้มันอยู่จะได้ทำงานง่ายขึ้น
16. ตัดเชือกอีกเส้น ยาว 3 เมตร แล้วจับเชือกวางเป็นตัว U ตะแคง ให้ปลายเชือกอยู่ด้านล่าง ตามรูปเลยค่ะ
แล้วพันรอบเชือกไปเรื่อยๆ จนถึงท้ายตัว U


17. สอดเชือปลายเชือกที่ท้ายตัว U
18. ดึงทั้ง 2 ข้าง
19. จะได้ด้านบนที่สำหรับแขวนแล้วค่ะ
20. เอาปลายกรรไกรค่อยๆ ตัดหลอดทิ้ง ค่อยๆ ตัดแต่หลอดระวังจะไปตัดโดนเชือกด้วยนะคะ
แล้วอย่าลืมติดกาวระหว่างลูกปัดกับปมเชือกด้วยนะคะ หยดนิดเดียวแค่พอให้ติดนะคะ ข้อควรระวังเวลาติดกาวร้อนคือถ้ากาวมากไปกาวมันจะวิ่งไปตามเชือกนะคะ กาวร้อนจะทำให้เชือกกรอบได้ค่ะ

เทคนิค

  • ถ้าอยากได้ขนาดใหญ่ขึ้น ให้เพิ่มความยาวของหลอด แต่ถ้าหลอดยาวมากควรเพิ่มความยาวเชือกด้วยนะคะ
  • การตกแต่ง นอกจากจะใช้ลูกปัดแล้ว อาจจะหลอดดูดน้ำขนาดใหญ่ แบบที่ใช้กับชานมไข่มุกก็ได้ค่ะ หรืออาจทาสีตรงปมเชือกก็เก๋ไปอีกแบบ


แบบที่ใส่ขวดโค้กใช้หลอดขนาด 4 cm ค่ะ ตอนนี้อาจจะดูโล่งๆ ดิบๆ หน่อย แล้วว่างๆ ป้าเอ๋จะอัพเดทรูปที่ตกแต่งมาให้ดูกันนะคะ

ขอบคุณค่า